::: MPTC Site is make money online >> เว็ปเพื่อการลงทุนทาง Internet !!! :::
[ PeopleString][ FeedyCash][ Cash-Twist]
::: ขณะนี้ Web Site ของเรา กำลังปรับปรุง ขออภัยในความไม่สะดวก :::
Cash Twist - Join Us and Twist! $Turn one time $19 into $20K over & over again...

@Sing up for AlertPay(เปิดบัญชี AlertPay)

วิธีสมัครบัตร B 1st ของธนาคารกรุงเทพ

ไป เปิดบัญชีกับธนาคารกรุงเทพ เลือกเป็นบัญชีสะสมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ก็ได้ครับ แล้วก็ทำบัตร Be1st เลย เป็นบัตรเอทีเอ็มนี่แหละครับ แต่เดี๋ยวนี้สามารถนำมาใช้ซื้อของผ่านอินเตอร์เนตได้เหมือนบัตรเครดิตแล้ว สะดวกรวดเร็ว และสามารถรับรายได้ได้ด้วย ขอแนะนำบัตรนี้เหมาะที่สุดครับ
เอกสารที่ต้องเตรียม : บัตรประชาชนตัวจริง (หรือหนังสือเดินทาง) เท่านั้นครับ

*** ใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็ใช้งานได้ทันทีครับไม่ต้องรอนาน แนะนำวิธีนี้ดีที่สุดครับ***
**ขณะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกด้วยว่า ทำบัตร บีเฟิร์ต ด้วยนะครับ**
การเตรียมบัตร Be1st ให้พร้อมใช้ในระบบออนไลน์
1. บัตร Be1st รุ่นหลังบัตร ไม่มีเลข 3 ตัว ให้นำบัตรไปเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ นำสมุดบัญชี บัตรประชาชน และ บัตร Be1st ไปที่สาขาของบัญชี ขอทำบัตรรุ่นใหม่มีเลข 3 ตัวหลังบัตร บางสาขาจะรับบัตรได้เลย
บางสาขา จะให้รอ 7 วัน (ระบบ ธ.กรุงเทพฯ บางสาขาล้าหลัง ส่วนใหญ่ต่างจังหวัด ลองถามดูว่าทำไมบางสาขาได้บัตรทันที เจ้าหน้าที่บางคนไม่ได้อัพเดทข้อมูลเลย ทางธนาคารปรับระบบให้รับบัตรได้โดยไม่ต้องรอ 7 วันแล้ว)
2. บัตร Be1st รุ่นใหม่ ที่มีเลข 3 ตัวหลังบัตร ก่อนนำไปสมัคร ธนาคารออนไลน์ ต้องทำขั้นตอนการ Verified by Visa กับ ธ.กรุงเทพฯ ก่อน มีขั้นตอนเป็น 3 ส่วน ดังนี้


- กด 1 เลือกภาษาไทย
- กด 7 เพื่อสมัครใช้บริการ Verified by Visa
- กด 1 ยืนยัน เพื่อทำการตั้งหมายเลขอ้างอิงสำหรับลงทะเบียน Verified by Visa
- กดหมายเลข16 หลัก หน้าบัตร Be1st ของคุณ
- กดเลขบัตร เอทีเอ็ม 4 หลัก (หรือ รหัสลับส่วนตัว (PIN) ของคุณ กรณีทำบัตรมาใหม่ ๆ)
- กดตั้งหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่คุณต้องการ และกด #
- กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลัก เดิมอีกครั้งอีกครั้งเพื่อทำการยืนยัน และ กด #
เป็นอันเสร็จสิ้นการขอหมายเลขอ้างอิง(Reference Code)
นำเลขอ้างอิง 8 หลักที่ตั้งเสร็จ ไป Verified by Visa ที่ลิ้งค์ หน้าเว็บไซต์ของ ธ.กรุงเทพ ฯ
การทำ บีเฟิร์ส ที่ลิงค์ของธนาคาร มี 5 ขั้นตอน

1. ใส่เลข 16 หลัก หน้าบัตร บีเฟิร์ส กด next
2. Verify identity ตรงนี้ให้ใส่หมายเลขอ้างอิง 8 หลัก ที่ตั้งไว้ทางโทรศัพท์ กด next
3. Create password จะมีช่องให้กรอก
3.1 ข้อความอ้างอิง ตั้งอะไรก็ได้เป็นภาษาอังกฤษ
3.2 ตั้งพาสเวิร์ด 6 หลักเป็นตัวเลขอย่างเดียว แล้วกรอกพาสเวิร์ดซ้ำ 2 ช่องต้องเหมือนกัน
3.3 กรอกอีเมลที่ติดต่อได้สะดวก
3.4 เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ติดต่อได้ ระบบจะใส่ 0 ไว้ให้ ใส่เลข 8….ต่อได้เลย
4. Terns Conditions ตรงนี้เป็นหน้าต่าง กฎกติกา ให้อ่านแล้วติ๊ก ยอมรับ กด next
5. สมบูรณ์
การตั้งวงเงิน
- กด 1 เลือกภาษาไทย
- กด 3
- กด 3 อีกครั้ง
- กดหมายเลข 16 หลัก หน้าบัตร Be1st
- กดเลขบัตร เอทีเอ็ม 4 หลัก
- กด 2 เพื่อตั้งวงเงิน
- กด 1 เพื่อตั้งวงเงิน 2 หมื่นบาท
หมายเหตุ : วงเงินที่ตั้งคือ วงเงินที่จะใช้จ่ายออนไลน์สูงสุดได้ในแต่ละวัน ไม่ได้หมายถึงจะต้องมีเงินในบัญชีถึงจะสมัครได้ และสามารถเข้ามาเปลี่ยนเพิ่มหรือลดได้ตลอดเวลา
วิธีทำบัตร K-Web Card
1. นำบัตรประชาชน ไปเปิดบัญชีออมทรัพย์ ที่ธนาคารกสิกรไทย พร้อมทั้งบอกว่า ขอเปิดใช้บริการ K-Cyber Banking ด้วย (เค-ไซเบอร์-แบ้งกิ้ง) เจ้าหน้าที่จะเอาแบบฟอร์มให้กรอก ต้องกรอกอีเมล และเบอร์โทรที่ติดต่อได้
(หากไม่มีอีเมล ให้เปิดอีเมลเอาไว้ก่อนไปธนาคาร)
*ถ้ามีบัญชีกสิกรอยู่แล้ว ก็นำสมุดบัญชี+บัตรประชาชน ไปขอเปิด K-Cyber Banking ได้เลย (สาขาไหนก็ได้)
2. กลับมาบ้าน รออีเมล์จากธนาคาร ประมาณไม่เกิน 24 ชม. เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
เข้าเว็บ ไซต์

https://ebank.kasikornbank.com/kcyber/login_th.html
เลือก ระบบภาษา เป็นภาษาไทย ตามภาพ
ชื่อผู้ใช้งาน ใส่ (หมายเลขบัญชีธนาคาารของคุณ)
รหัสผ่าน ใส่(หมายเลข PIN 1 ที่ธนาคารให้มา)
คลิก เข้าสู่ระบบ

อ่านเงื่อนไข แล้วกดตกลง

กำหนดชื่อผู้ใช้งาน
ชื่อผู้ใช้ งาน พิมพ์ ชื่อที่เราต้องการใช้ Login กำหนด 6-8 ตัวอักษร โดย เป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้
ยืนยันผู้ใช้ งานอีกครั้ง พิมพ์ เหมือนเดิมอีกครั้ง
กำหนดรหัสผ่าน รหัสผ่านเดิม พิมพ์ รหัส PIN 1
รหัสผ่านใหม่ พิมพ์ รหัส ที่เราต้องการ ให้มี 8-10 ตัวอักษร โดย เป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้
ยืนยันรหัสผ่านใหม่อีกคร้ง พิมพ์ รหัสใหม่อีกครั้งให้เหมือนกัน

กรอกข้อมูลให้ครบ

รหัส รักษาความปลอดภัย
รหัส รักษาความปลอดภัยใหม่ พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้นต้องมี 10-12 ตัวอักษร โดยเป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมดหรือผสมกันก็ได้
ยืนยันรหัสรักษาความปลอดภัยใหม่อีกครั้ง พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้นอีกครั้งให้เหมือนกัน
**แนะ นำให้ใช้รหัส OTP โดยเลือกที่ช่องแล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ลงไป โดยทุกๆครั้งที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บ จะมีการแจ้ง Password ไปที่โทรศัพท์ ทำให้เราไม่ต้องจำ แล้ว Password แต่ละครั้งก็จะไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะปลอดภัยมาก
เจอ หน้านี้ ก็เรียบร้อยแล้ว กับ การตั้งค่าเมื่อเข้าสู่บริการครั้งแรก
เข้าสู่หน้าจอหลัก นี่เป็นหน้าสมาชิกในเวปกสิกรไทยของคุณเอง ส่วนนี้คือส่วน ที่เค้าเรียกกันว่า บริการ K-Cyber Banking ที่คุณจะสามารถใช้บริการธนาคารออนไลน์ได้ โดยเฉพาะการดูรายการเคลื่อนไหวบัญชี เช่นการรับเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ชำระเงิน ต่างๆเป็นต้น
คุณก็สามารถ คลิกดูที่เมนูต่างๆได้ ลองหัดใช้ดูได้เลย
การ กำหนดวงเงิน คือกำหนดว่า แต่ละเดือน เราจะจำกัดตัวเองให้ใช้เงินได้ไม่เกินกี่บาทต่อเดือน เช่น 2000 บาท หรือ 10,000 บาท (เฉพาะสำหรับบัตรเคเวปการ์ดใบนี้) ถ้าหากเดือนนั้น ใช้เงินจนเต็มวงเงินแล้ว ก็จะไม่สามารถใช้เงินได้อีก ในส่วนนี้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด เท่าที่เราต้องการ

แค่นี้เราก็สามารถเอาข้อมูลบัตรไปผูกกับ Alertpay ได้แล้ว

เสร็จแล้วคลิ้กแบนเนอร์นี้เพื่อสมัคร AlertPay

หากท่านต้องการให้ผมแนะนำขั้นตอนในการสมัครอย่างละเอียด

ท่านสามารถส่ง sms มา โดยพิมข้อความว่า CA แล้วส่งมาที่ 084-6444-579

การสมัคร AlertPay

การเตรียมความพร้อมก่อนทำการสมัคร สิ่งที่ท่านจะต้องมีคือ

1. บัญชี Alert Pay เพื่อการสมัครแอคทีฟ และ รับรายได้
2. บัญชีบัตรเครดิต หรือ Be1st หรือ K-webshopping cards เพื่อ สมัครกับ Alert Pay
3. จำนวนเงินในบัญชีเครดิตสำหรับ Active

AlertPayคืออะไร

Alertpayคือธนาคารออนไลน์แห่งหนึ่งบน Internet ที่เราสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการ รับเงินค่าคอมมิชชั่น และโอนเงินระหว่างบัญชี เมื่อมีเงินในบัญชี AlertPay สามารถโอนเข้าธนาคารของประเทศไทยได้ ในอนาคตสำหรับผู้ที่ทำงานบน Internet ส่วนใหญ่ก็ต้องรับเงินทาง Internet ด้วยเช่นกัน ส่วนน้อยที่จะได้รับเงินเป็น ” เช็ค ” เพราะฉะนั้นถ้าหากเราคิดที่จะหารายได้ผ่าน Internet แล้วละก็ คุณไม่ควรพลาดที่จะต้องสมัคร Alertpay ไว้ด้วยเช่นกัน

ทำไมต้องสมัครAlertPay

เพราะ บางเว็บไซต์เขาจะจำกัด จุดหมายของการรับเงินดังเช่นจ่ายผ่านเช็ค หรือจ่ายผ่านAlertpay หรือจ่ายทั้งสองแบบ ซึ่งเราไม่มีสิทธิ์เลือกได้เลยว่าจะให้เขาจ่ายเงินเราทางไหน เพราะเขาจะเป็นผู้กำหนดเองและ AlertPay ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัย และน่าเชื่อถือไม่แพ้ธนาคารออนไลน์แห่งอื่นเช่นกัน

บัญชีประเภท Personal Starter VS Personal Pro

ข้อ ควรรู้คือ หากบัญชีAlertPay ของคุณ มีเงินเข้ามากๆ จนเกินเดือนละ $400 หรือรวมกันแล้วเกิน $2,000 ต่อปี บัญชีของคุณก็จะถูกอัพเกรดเป็น Personal Pro โดยอัตโนมัติ ถึงตอนนั้นก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเมื่อรับเงินเข้ามาที่ AlertPay เท่ากับ 2.5% ของยอดเงินที่รับ บวกกับอีก $0.25 (ในขณะที่ ถ้าเป็นบัญชี Personal Starter จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้) ยกตัวอย่างเช่น คุณรับเงินเป็นจำนวนเงิน $500 คุณจะมีค่าธรรมเนียมการรับเงินเข้า AlertPay เท่ากับ (500 x 2.5%) + 0.25 = $12.75 เหลืออยู่ $487.25

การ Verify บัญชี AlertPay

ทางAlertPay ไม่ได้บังคับ แต่ขอความร่วมมือผู้ใช้งาน ส่งเอกสารยืนยันตัวตนเข้ามาเพื่อเป็นหลักฐาน และเป็นประโยชน์กับตัวผู้ใช้งานเอง โดยเฉพาะในกรณีที่บัญชีเกิดปัญหา เช่น บัญชีถูกแฮ็คพาสเวิร์ด เป็นต้น แนะนำว่าให้ทำไว้ดีกว่าครับ เสียเวลาไม่มาก แต่ปลอดภัยกว่ากันเยอะครับ เอกสารที่ต้องส่งไปให้ AlertPay มีดังนี้ครับ

ขั้นตอนการสมัครAlertPay

alert_regis1

alert_regis2

***การใส่บ้านเลขที่ห้ามมีเครื่องหมาย / เด็ดขาด ให้วรรคหรือ.จุดแทนก็ได้

alert_regis3



alert_regis4

alert_regis5

alert_regis6

alert_regis7

alert_regis8

ต่อไปเป็นวิธีการผูกบัตรเครดิตเพื่อใช้ในการสมัคร

เท่านี้ก็เสร็จการผูกบัตรกับ Alertpay